Isuzu D-Max จากทีม Kimuchii
เมื่อประมาณ 3-4 ปีที่ผ่านมา คำว่า JDM กลายมาเป็นอีกคำศัพท์คำหนึ่งที่พวกเราชาวซิ่งได้ยินแทบจะทุกวัน ความจริงแล้ว คำว่า JDM ย่อมาจาก Japanese Domestic Market แต่สำหรับขาซิ่งแล้ว เป็นที่เข้าใจกันว่า JDM คือ แนวทางการแต่งรถที่ใช้พาร์ทแท้จากญี่ปุ่น 100% ซึ่งการแต่งรถแนวนี้ก็ได้รับความนิยมอยู่พักใหญ่ๆ เลยทีเดียว
Isuzu D-Max จากทีม Kimuchii
และในเวลาเดียวกันนั้น คำว่า USDM (US Domestic Market) ก็กลายมาเป็นอีกคำหนึ่งที่ถูกบัญญัติขึ้นโดยขาซิ่งแห่งแดนมะกัน ซึ่งก็เป็นสไตล์การแต่งรถที่ใช้พาร์ทที่ผลิตภายในประเทศมาตกแต่งรถยนต์ ซึ่งก็เป็นเทรนด์ที่กลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในเวลาอันสั้น
แล้วถ้าพูดถึง THDM ล่ะ !?
รองจากประเทศญี่ปุ่นแล้ว บ้านเราไทยแลนด์ ถือเป็นประเทศที่มีรถซิ่งเยอะที่สุดในเอเชีย พูดง่ายๆ ก็คือว่า ประเทศเราเป็นประเทศที่บ้ารถซิ่งอันดับต้นๆ ของเอเชียนั่นแหละครับ ด้วยเหตุนี้ ผมก็เลยคิดว่า...ถ้าสมมติผมจะลองนิยามความหมายของ THDM (Thai Domestic Market)...มันจะออกมาเป็นแนวไหนดีนะ ?
อินเตอร์ฯ หน้าขนาดใหญ่ ใช้เพื่อระบายความร้อนให้กับไอดีที่บูสต์ระดับ 48 PSI
แต่ถ้าพูดถึงวงการรถซิ่งบ้านเราแล้ว รถซิ่งที่มีกลิ่นไอของความเป็นไทยมากที่สุด คงหนีไม่พ้น “กระบะซิ่ง” ซึ่งถือเป็นรถแต่งที่กลายมาเป็นเอกลักษณ์ของบ้านเราไปแล้ว และหลังจากที่กระบะซิ่งบ้านเราได้ไปสร้างชื่อเสียงในต่างประเทศอย่างน่าภาคภูมิ ทำให้สาวกรถซิ่งทั่วโลก รู้จักไทยแลนด์ในฐานะของดินแดนของกระบะซิ่งไปโดยปริยาย
ในวันนี้ BoxzaRacing จะพาท่านผู้อ่านไปพบกับ “กระบะซิ่ง” อีกหนึ่งคัน นั่นก็คือ Isuzu D-Max ซึ่งถือเป็นบอดี้ที่ถูกนำมาแต่งซิ่งอย่างแพร่หลาย โดยรถคันนี้เป็นของคุณแอม ทวีชัย จากทีม Kimuchii เรียกได้ว่าเป็น D-Max อีกหนึ่งลำที่ “สุด” เอาเรื่องเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งภายนอกหรือภายใน รวมไปถึงในส่วนของตัวเครื่องยนต์เอง ก็ได้รับการโมดิฟายอย่างพิถีพิถัน
พาร์ทคาร์บอนสุดอลังการ
Isuzu D-Max สีขาวคันนี้ โดดเด่นสะดุดด้วยพาร์ทคาร์บอนไฟเบอร์ที่ถูกติดตั้งแบบอลังการ เรียกว่าแค่พาร์ทคาร์บอนอย่างเดียว ก็กินพื้นที่เกือบจะครึ่งคันอยู่แล้ว ไล่มาตั้งแต่กันชนหน้า ฝากระโปรง แก้มหน้าซ้าย-ขวา รวมไปถึงประตูคู่หน้า ทุกชิ้นเป็นคาร์บอนไฟเบอร์ซึ่งเป็นผลงานจากสำนัก MONZA Shop
กระจกข้าง Craft Square
เนื่องจากว่า D-Max รุ่นนี้ มีรูปร่างหน้าตาที่หล่อเหลาเอาการอยู่ทีเดียว ถึงแม้จะตกรุ่นไปแล้ว แต่ตัวรถก็ยังดูทันสมัยอยู่ ดังนั้นคุณแอม เจ้าของรถจึงไม่ได้ใส่พาร์ทอะไรเพิ่มเติม เพราะว่า เพียงแค่พาร์ทคาร์บอนไฟเบอร์ ก็ทำให้รถดูดุดันขึ้นมาราวกับเป็นคนละคันแล้ว
เครื่องยนต์รหัส 4JK 2,500 ซีซี.
ขุมพลังที่ประจำการอยู่ภายใต้ฝากระโปรงคาร์บอนไฟเบอร์ คือ เครื่องยนต์รหัส 4JK พิกัด 2,500 ซีซี. เทอร์โบถูกเปลี่ยนไปใช้เทอร์โบขนาดใหญ่ขึ้น ซึ่งหยิบยืมมาจากเครื่องยนต์ 3,000 ซีซี. ตั้งบูสไว้ที่ 48 PSI หัวฉีดใช้ของ GTX V2 ปั๊มคอมมอนเรลเป็นของสำนัก นันพระราม 5 ควบคุมแรงดันน้ำมันด้วยเรกกูเลเตอร์ AEROMOTIVE กล่องควบคุมเป็นของ ALPHA TECH
เรกกูเลเตอร์ AEROMOTIVE
ภายในโดดเด่นด้วยเบาะ KIRKEY สีแดงสดที่ถูกติดตั้งไว้ที่คู่หน้า ให้อารมณ์รถซิ่งทางตรงได้อย่างเจนจัดชัดเจน พวงมาลัยแบรนด์ยอดฮิตก้านยกจากสำนัก NARDI หัวเกียร์ VERTEX ฝั่งขวาของคอนโซลเป็นที่ประจำการของเกจวัดต่างๆ จาก Defi เพื่อวัดค่าการทำงานต่างๆ ของเครื่องยนต์และระบบน้ำมัน เรียกได้ว่า ภายในของ D-Max คันนี้ อลังการงานสร้าง จนลืมไปว่ารถที่ขับอยู่นี่คือ รถกระบะ
KIRKEY สีแดงสดประจำการแทนเบาะเดิม
เกจ์ Defi ใช้วัดค่าการทำงานต่างๆ ของเครื่องยนต์
คอพวงมาลัย WB
ล้อแม็กสมัยนิยม TE37 ที่ไม่ว่าจะนำไปใส่บนรถเก๋งซีดาน หรือว่ากระบะสายซิ่งก็ทำให้ตัวรถโดดเด่นได้อย่างไม่ยากเย็น ในส่วนของช่วงล่างนั้น คุณแอมเลือกใช้โช๊คอัพของ AZTEX Force คาลิเปอร์หน้าถูกเปลี่ยนเป็นของ ARISTO ยางที่เลือกมาใส่ให้กับกระบะตัวโหดคันนี้เป็นของยี่ห้อ Achilles ยางหน้ามีขนาด 245/40/18 ส่วนยางหลังมีขนาด 275/40/18
คาลิปเปอร์เบรกหน้า Aristo
TechSpec
ภายนอก
ภายใน
ช่วงล่าง
แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook