การแข่งขันรถยนต์ทางเรียบนอกจากเครื่องยนต์ ช่วงล่าง ที่ต้องดีและสมบูรณ์แล้ว ยางก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่มีความสำคัญมากๆ ด้วย ไม่ว่าจะการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบประเภทไหน แข่งรถดริฟ รถเซอร์กิต รถแดร็ก หรือแม้กระทั่งรถมอเตอร์ไซค์ ยาง นั้นมีความสำคัญอันดับต้นๆ เลยก็ว่าได้
ยางมีหน้าที่ยึดเกาะถนน และพารถแข่งทะยานไปข้างหน้า ในทุกสภาพถนน ทุกสภาพอากาศ รถแข่งที่ทำการโมดิฟายมาชุดใหญ่ แรงม้าระดับ 500 ถึง 1000 ม้า แต่เลือกใช้ยางที่ไม่เกาะถนน ยางที่ไม่สมบูรณ์ ยางไม่สดใหม่ รถก็จะไม่สามารถพุ่งทะยานไปข้างหน้าได้อย่างเต็มที่ แรงม้าที่มีอยู่ก็จะไม่ถูกถ่ายทอดลงบนพื้นแทร็คได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ดังนั้นยางจึงมีส่วนสำคัญไม่แพ้เครื่องยนต์และช่วงล่าง
การแข่งขันรถยนต์สูตรหนึ่งหรือ F-1 (Formula 1) ที่พัฒนาเครื่องยนต์ พัฒนาบอดี้รถ พัฒนาช่วงล่างให้สมบูรณ์ที่สุด และก็ไม่ลืมที่จะพัฒนายางให้มีความสมบูรณ์และดีที่สุดสำหรับรถแข่งด้วยเช่นกัน จึงไม่แปลกที่ยางสำหรับการแข่งขันรถ F-1 จะถูกออกแบบมาให้มีหลายชนิดหลายประเภทตามแต่ละสนามแข่งนั้นๆ ที่รายการ F-1 ร่วมทำการแข่งขัน โดยยางที่ใช้ในการแข่งขัน F-1 จะถูกแบ่งออกเป็น 5 ชนิดด้วยกัน โดยแต่หละชนิดจะถูกแบ่งด้วยสีอย่างชัดเจน โดยในปีนี้ได้เปลี่ยนการเรียกชื่อยากจากเดิม Superhard, Hard, Medium, Soft, Super Soft, Ultrasoft และ Hypersoft มาเป็น C1, C2, C3, C4 และ C5 โดย C1 จะเป็นยางเนื้อแข็งที่สุด และ C5 จะเป็นเนื้อยางที่นิ่มที่สุด แต่ละสนามจะมีให้ใช้สนามละ 3 ชนิด โดยจะเรียกแค่ว่า Hard (เส้นแก้มยางสีขาว) , Medium (เส้นแก้มยางสีเหลือง) และ Soft (เส้นแก้มยางสีแดง) เท่านั้น ซึ่งแต่ละชนิดจะมีตัวอักษร “C” ต่อท้ายกำกับไว้อยู่ว่าเป็น “C” อะไร เช่น Soft C4 เป็นต้น โดยรหัสตัว “C” ถ้าเทียบกับการเรียกชื่อชนิดยางแบบเก่าจะแบ่งคุณสมบัติออกเป็นดังนี้ ตามที่ทาง Pirelli ได้บอกเอาไว้
ส่วนยางที่จะใช้สำหรับพื้นเปียกนั้นจากของเดิมมี 2 ชนิดด้วยคือ ยางสำหรับแทร็คเปียก (Wet) และยางสำหรับแทร็คกึ่งเปียกกึ่งแห้ง (Intermediate) แต่ในปีนี้จะมีให้ใช้ชนิดเดียวไม่ได้แยกอุณหภูมิสูงหรือต่ำอีกแล้ว แต่จะมีประสิทธิภาพที่ดีกว่าแบบเก่าเมื่อมีฝนตกหนัก โดยในแต่หละสนามนั้นทางผู้จัดการแข่งขัน F1 จะมีตารางสถิติการใช้ยางให้ทีมแข่งแต่หละทีมได้เลือกใช้ยางกันด้วย
คราวนี้เพื่อนๆ น่าจะคลายข้อสงสัยได้แล้วนะครับว่าทำไม เส้นสีที่แก้มยางของรถแข่ง F1 จึงมีหลายสี แล้วแต่หละสีบ่งบอกถึงอะไร ช่วยเพิ่มอรรถรสในการดูการแข่งขัน F1 ได้ขึ้นมาอีกหน่อย
ข้อมูลจาก : www.pirelli.com