เขียนโดย: RaiToZ Boxza

เมื่อ: 6 ธันวาคม 2560 - 15:18

ล้อรถไม่ใช่เรื่องล้อเล่น เผยเคล็ดลับการเลือกล้อแม็ก เลือกยังไงให้หล่อและลงตัว

          หลังจากถอยรถออกจากโชว์รูมมา ของแต่ชิ้นแรกๆ ที่เพื่อนๆ นึกถึงก็คงจะหนีไม่พ้น “ล้อสวยๆ กับยางดีๆ” สักชุด ถ้าเลือกลายได้ลงตัวกับตัวรถอีกล่ะก็ รถของเพื่อนๆ จะมีความหล่ออย่างที่ไม่ต้องลงทุนอะไรมากมาย บวกกับยางคุณภาพเยี่ยมที่ช่วยให้ขับหนึบขึ้นทันตาเห็น จะมีเหตุผลอะไรที่จะไม่เปลี่ยนล้อกันล่ะครับ แต่อย่างไรก็ตามการเลือกล้อนั้น ไม่ใช่ว่าจะเดินเข้าไปร้าน แล้วจิ้มลายที่ถูกใจได้เลย ซึ่งวันนี้ทางคอลัมน์ความรู้เรื่องรถ จะมาแนะนำเพื่อนๆ ว่าจะเลือกล้อสักวงนั้น ต้องดูอะไรกันบ้าง

 

 

          ปัจจุบันนั้นน่าตกใจมาก เพราะเพื่อนๆ ส่วนใหญ่มักจะเลือกเอาลายล้อที่ถูกใจมากกว่าคุณภาพ และผลลัพธ์ที่ได้ ซึ่งการเปลี่ยนแม็กนั้น ต้องขอเน้นยำว่า...ถึงจะเป็นของแต่งที่ไม่ได้แพงอะไรมากมายแต่มันก็เป็นส่วนที่เราต้องคำนึงถึงมากที่สุด เนื่องจากมันเป็นเพียงชิ้นส่วนเดียวที่สัมผัสกับพื้นถนน และเป็นสิ่งสุดท้ายที่ทำให้รถเคลือนที่ได้ ฉะนั้นการใส่ใจกับการเลือกนั้นก็เป็นสิ่งสำคัญ ทั้งเลือก Spec ของแม็กและยาง โดยเรามาเริ่มกันที่ล้อแม็กกันก่อนครับ

 

 

ล้อแม็ก

          ก่อนที่เพื่อนๆ จะเปิดหน้าเว็บไซต์ เพื่อหาลายแม็กที่ชอบ ให้เพื่อนๆ กลับมาดูล้อของตัวเองเสียก่อนครับว่ามี “ขนาด” เท่าไหร่ โดยเริ่มจากดูจากขนาดยางที่รัดอยู่กับล้อ เช่น ยางขนาด 175/65/15 นั่นก็หมายถึงเพื่อนๆ มีล้อที่หน้ากว้าง 175 มม. ขอบ 15 นิ้ว นั่นเองครับ ต่อไปก็ดูจำนวนน๊อตยึดและขนาดของ Bolt Circle Diameter (BCD) หรือที่คุ้นหูว่า Pitch Circle Diameter (PCD) ซึ่งในส่วนนี้อาจจะต้องพึ่งคู่มือรถสักหน่อย เพราะรถบางคันนั้น มีขนาดของรูที่เฉพาะตัวเช่นพวก PCD = 114.3 เป็นต้น หลังจากเพื่อนๆ ทราบถึง Spec ล้อของเพื่อนๆ แล้ว ทีนี้ก็หาลายที่ชอบใจได้เลยครับ

 

การเลือกล้อแม็ก

          หลังจากที่เพื่อนได้ลวดลายที่ถูกใจวัยรุ่นแล้ว ก็มาดู Spec กันต่อ เช่น ล้อเดิมของเพื่อนๆมีขนาด 16’’ หน้ากว้าง 175 มม. แต่อยากได้ล้อขอบ 17’’ หน้ากว้าง 8 นิ้ว จะต้องทำอย่างไร แล้วจะได้ความสูงเท่าเดิมไหม แล้วความนิ่มนวลจะเปลี่ยนแปลงไหม เรามีสูตรคำนวนกันอย่างง่ายๆ ครับ โดยที่เทียบกันกับของเดิม โดยมีสูตรคิดง่ายๆ คือ หน้ากว้าง X แก้มยาง หารด้วย 100 เมื่อได้ผลลัพธ์แล้วหารด้วย 25.4 ต่อจากนั้น X 2 (เพราะคิดค่าที่หน้ายางบน-ล่าง) จบด้วย + กับขอบล้อ” โดยที่สามารถเทียบผลลัพธ์ที่ได้กับล้อที่จะเปลี่ยน โดยให้ตัวเลขใกล้เคียงกันมากที่สุด ตัวอย่างการคำนวน เช่น

 

ขนาดล้อเดิม

175/65/16 = (175 X .65) /25.4) X 2)+16 = 24.95

 

ขนาดล้อใหม่

205/45/17 =  (205 X .45) /25.4) X 2) +17 = 24.26

หรือ

205/55/17 =   (205 X .55) /25.4) X 2)+17 = 25.87

 

**ถ้าเลือกควรเลือกให้ผลลัพธ์ใกล้เคียงผลเดิมมากที่สุด**

 

          นอกจากนี้การเลือกหน้ากว้างของแม็กที่มากเกินไป ทำให้อาจมีผลเสียตามมาหลายๆ อย่าง เริ่มจากวงเลี้ยวที่จะกว้างขึ้น หรือรวมไปถึงหากเลือกหน้ากว้างจนต้องดึงยาง อาจจะทำให้รถต้องใช้กำลังมากในการทำให้ล้อหมุน นั่นหมายถึงอัตราการสิ้นเปลืองที่อาจจะเพิ่มขึ้น รวมไปถึงพละกำลังที่ลดลงไปไม่น้อยครับ หลังจากได้ขนาดหน้ากว้างของล้อแม็ก รวมไปถึงขนาดยางแล้วเรื่องต่อไปก็มาดูกันถึงการเลือก OFFSET กันต่อเลยครับ

 

OFFSET

         มาถึงจุดที่เรียกได้ว่าละเอียดอ่อนที่สุดของรถเลยก็ว่าได้ครับ เพราะมันสามารถเปลี่ยนรถของเพื่อนๆ ไปได้อย่างสิ้นเชิง เหมือนกับเป็นรถคนละคันเลยก็ว่าได้ ฉะนั้นวันนี้เราจะมาทำให้เพื่อนๆ รู้จักกับ OFFSET ล้อกันเสียหน่อยนะครับ คำว่า OFFSET คือ ตัวเลขที่บอกถึงระยะห่างของดุมล้อของรถกับจุดกึ่งกลางของล้อแม็กนั่นเองครับ ซึ่งจะสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 แบบหลักๆ คือ

 

  • ZERO OFFSET

          จะเรียกได้ว่าขนาดเกือบเท่าล้อเดิมเลยก็ว่าได้ เพราะไม่ได้มีการแปรผันระยะความห่างแต่อย่างใด โดยที่ถ้าใส่แล้วจะได้ความพอดีแบบไม่ต้องตกแต่งเพิ่มเลยครับ

 

  • POSITIVE OFFSET

          เป็นแบบที่นิยมมากที่สุดในตลาดรถแต่ง ซึ่งมันก็คือ ล้อแม็กที่เป็นจำพวกล้อก้านยกต่างๆ ที่ลายจะขึ้นมาอยู่ด้านหน้ามากกว่าปกติ ทำให้เวลาติดตั้งแล้ว ตัวของล้อจะอยู่ในซุ้มมากกว่าเดิม ส่งผลให้หากเลือกขนาดที่ไม่พอเหมาะกับรถแล้วล่ะก็ นอกจากทำให้รถเลี้ยวยากแล้ว อาจถึงขั้นเลี้ยวแล้วล้อมีการเสียดสีกับซุ้มล้อภายใน และที่สำคัญคือ หากมากเกินไปอาจจะทำให้การทำงานของช่วงล่างผิดเพี้ยนไปจนอาจเกิดความเสียหายต่อชิ้นส่วนต่างๆ ได้นั่นเอง ซึ่งก็มีทางแก้ไขด้วยการเสริม Spacer ครับ

 

  • NEGATIVE OFFSET

          แบบนี้มักจะพบได้ค่อนข้างเฉพาะกลุ่ม เช่น พวก Flush Style เป็นต้น โดยที่ออฟเซทแบบนี้ จะแตกต่างจาก POSITIVE OFFSET โดยสิ้นเชิง เพราะตัวของลายจะอยู่ลึกกว่ากึ่งกลางล้อแม็ก ทำให้มีขนาดความลึกของล้อที่ดูลึกว่าปกตินั่นเองครับ

 

 

          สำหรับการเลือกออฟเซทที่ถูกต้องนั้น ควรทราบถึง ออฟเซทของล้อเดิมเสียก่อน หลังจากนั้นให้ลองเทียบกับล้อที่เพื่อนๆ ชอบ ซึ่งจากที่หาข้อมูลมาก หลายๆ ผู้เชี่ยวชาญจะแนะนำให้เลือกออฟเซ็ทที่มีขนาดใกล้เคียงของเดิมโดยที่ให้ “ลด” ขนาดของออฟเซทลง 7-9 มม เนื่องจากล้อเเม็กส่วนใหญ่นั้น จะมีขนาดที่เป็น OverSize อยู่แล้วนั่นเองครับ อย่างไรก็ตามเพื่อนๆ ก็ลองสอบถามข้อมมูลเพิ่มเติมจากคนขาย เพื่อให้ได้ Spec ที่แน่นอนของแม็กรุ่นนั้นๆ ก่อนใส่อีกครั้งครับ

            เอาละครับ...เป็นอย่างไรบ้าง กับคำแนะนำเล็กๆ น้อยในการเลือกล้อแม็กดีๆ สักชุด เพื่อประสิทธิภาพของรถที่ยังคงเดิมหรือเพิ่มขึ้น การใส่ใจในจุดเล็กๆ ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรนะครับ สำหรับวันนี้ต้องลาไปแล้ว คอลัมน์ความรู้เรื่องรถครั้งหน้า จะเป็นเรื่องอะไร อย่าลืมติตตามกันนะครับ

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook